โฆษณา

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

พัฒนาการเดือนที่ 6 เริ่มเรียนรู้โลกภายนอก

วัยนี้เขาเริ่มอยากเรียนรู้โลกภายนอก พัฒนาการของเด็กแต่ละคนจะมีความหลากหลาย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะรู้สึกว่าลูกของตนทำอะไรไม่ได้เท่ากับเด็กคนอื่นๆ ที่อายุไล่เลี่ยกัน ทั้งนี้ เพราะเด็กแต่ละคนจะมีความสนใจ และความสามารถที่แตกต่างกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการที่ลูกทำอะไรอย่างหนึ่งได้ช้ากว่าเด็กคนอื่น จะเป็นเครื่องบอกว่าลูกจะมีพัฒนาการช้ากว่า เนื่องจากขึ้นอยู่กับสิ่งเร้าที่มากระตุ้นและการเลี้ยงดูเด็กในตอนนั้นด้วย

ในช่วงนี้ลูกจะเริ่ม คืบ ไปได้พอควร ส่วนใหญ่จะเข้าเกียร์ถอยหลังก่อนที่จะไปข้างหน้า และด้วยความอยากรู้อยากเห็นอันเป็นธรรมชาติของเด็ก ก็จะทำให้เขาอยากออก ไปเที่ยว โดยการทำท่าทางให้คนอุ้มเขารู้ว่า เขาอยากจะไปข้างนอกแล้ว ซึ่งในแต่ละช่วงลูกอาจจะคิดค้นเทคนิคใหม่ๆ ออกมาได้เอง
คุณพ่อคุณแม่ที่มีเวลาอยู่กับลูกมาก จะสามารถสังเกตเห็นพัฒนาการของลูกได้โดยง่าย ลูกจะชอบทำท่าเหมือนวิดพื้น เพื่อออกกำลังแขนและเรียนรู้การทรงตัว เมื่อจัดให้เขาอยู่ในท่านั่งก็จะเริ่มนั่งเองได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะยังต้องการการช่วยประคอง มิฉะนั้นก็จะค่อยๆ เอนลงไปข้างหน้าหรือด้านข้างได้ เนื่องจากจะยังไม่สามารถทรงตัวได้ดีนักนั่นเอง

ลูกจะชอบให้อุ้มจับยืนและจะชอบคว้าของที่เขาสนใจ ซึ่งจะทำให้เกิดอุบัติเหตุพลัดตกได้ง่าย ในตอนนี้ควรให้โอกาสเขาได้อยู่บนพื้นที่นุ่ม เช่น เบาะนวม ฯลฯ เพื่อให้เขาได้หัดการใช้กำลังกล้ามเนื้อแขนขา และฝึกการทรงตัวของเขาบ้างจะดีกว่าการอุ้มตลอดเวลา
ลูกชอบเอามือที่กำลังจับสิ่งของต่างๆ ขึ้นมาเขย่า โดยจะยังไม่สามารถแยกได้ว่า เสียงที่ได้ยินนั้นเกิดจากการเขย่าสิ่งของไม่ใช่เกิดจากมือของเขา และจะพบว่าเด็กบางคนชอบที่จะคว้าของและโยน หรือปล่อยลงพื้น ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อสังเกตดูปฏิกิริยาของของที่ตกลงบนพื้น และคนอื่นๆ ว่าจะมีท่าทางอย่างไร rพร้อมส่งเสียงให้รู้ว่าเขาไม่ยอม ถ้าไม่มีการนำของที่เขาปล่อยลงพื้นนั้นมาคืนเขา หรือมีการนำของนั้นไปเก็บ ซึ่งก็เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของสิ่งของ และคนรอบข้างของลูกวิธีหนึ่ง

ด้านการมองเห็น การใช้มือและนิ้วเล็กๆ ของลูกจะเริ่มดีขึ้น เขาจะสามารถมองเห็นของชิ้นเล็กๆ บนพื้นได้ดี แม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถเอานิ้วหยิบจับมันขึ้นมา เพราะในช่วงนี้ลูกจะยังใช้มือทั้งมือและชอบกำของ จะเริ่มจับของสองมือได้ และอาจเริ่มจะสลับของจากมือหนึ่งไปอีกมือหนึ่ง (Transferring things)
ลูกจะเริ่มพูดส่งเสียงสูงต่ำได้หลายโทนเสียง เริ่มจะรู้จักชื่อสิ่งต่างๆ ใกล้ตัว เมื่อคุณเรียกชื่อสิ่งนั้นเขาจะทำท่ามองหาได้ ลูกจะเข้าใจ ความหมาย ของสิ่งที่คุณพูด โดยการเรียนรู้ท่าทีและฟังโทนเสียงของคุณ ฉะนั้นเขาจะทำหน้าตา และท่าทางตอบสนองต่อเสียงเรียกของคุณหรือเสียงดุได้แตกต่างกัน ช่วงนี้ลูกจะดูเหมือนมีอารมณ์หงุดหงิด หรืออาละวาดบางครั้งถ้ามีสิ่งไม่ถูกใจเขา และเช่นกันก็อาจจะหยุดร้องกลายเป็นยิ้มได้ทั้งน้ำตา เมื่อมีอะไรที่น่าสนใจ น่าตื่นเต้นมาหลอกล่อ เบนความสนใจของเขาจากเรื่องเดิม
ลูกจะชอบสำรวจคุณ โดยการเอามือมาแตะหน้า แตะปากคุณเวลาที่คุณอุ้มเขา และจะเหมือนชวนคุณเล่นกับเขาด้วย โดยการทำเช่นนี้ลูกกำลังเรียนรู้ว่า คุณคือตัวคุณ และเขาเป็นตัวเขา ไม่ใช่คนๆ เดียวกันอีก เด็กจะชอบเล่น จ๊ะเอ๋ หรือการเล่น ซ่อนหา อย่างง่ายๆ เมื่อคุณทำท่าจะเดินห่างจากเขา ลูกจะเริ่มทำท่าทางหรือส่งเสียงเรียกให้คุณต้องกลับมาหาเขาใหม่ และเมื่อคุณเดินหายไปจากสายตา ลูกจะยังคงมองและคอยให้คุณโผล่กลับมาหาเขาอีก

อาหารเสริมสำหรับเจ้าหนูวัย 6 เดือน
ช่วงนี้ลูกจะชอบทานอาหารเด็กที่คุณป้อน และจะเริ่มทานได้กินขึ้น ซึ่งจะทำให้ลูกทานนมน้อยลง ทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวล กลัวว่าลูกจะไม่โต อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวก็จะไม่มากเท่าในช่วง 4 เดือนแรก ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนเครียด และพยายามยัดเยียดให้ลูกกินนมมากขึ้น หรือบางรายกลับลดข้าวตุ๋นที่ให้ลูกลงซึ่งไม่ควรทำดังนั้น เนื่องจากข้าวที่คุณตุ๋นให้ลูกนั้นจะมีคุณค่าทางโภชนาการและแคลอรีเพียงพอ ดังนั้นลูกจะไม่เกิดการขาดอาหารอย่างแน่นอน คุณสามารถให้อาหารเสริมแทนนม 1 มื้อ เมื่อครบ 6 เดือน (ยังต้องระวังการสำลักอาหารหรือติดคอ และระวังเรื่องการแพ้อาหารบางอย่าง เช่น อาหารทะเล และไข่ขาว)

ในช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่หลายคนจะคอยเปรียบเทียบลูกของตนกับเด็กคนอื่น และเกิดความกังวลในเรื่องต่างๆ เช่น ทำไมฟันยังไม่ขึ้น, ทำไมยังไม่เกาะยืน ฯลฯ ซึ่งเด็กในวัย 6 เดือนนี้ส่วนใหญ่จะยังทำไม่ได้ พัฒนาการของเด็กที่นำมากล่าวในที่นี้เป็นเกณฑ์เฉลี่ยของเด็กโดยทั่วไป แม้ว่าจะเกิดวัน เดือน ปีเดียวกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีการพัฒนาได้เท่ากัน และเด็กแต่ละคนก็มีความชำนาญในการทำสิ่งต่างๆ ได้แตกต่างกันด้วย