โฆษณา

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

พัฒนาการเดือนที่ 8 สิ่งรอบตัวเร้าใจ

ลูกจะเริ่มมีความสนใจสิ่งต่างๆ รอบตัวมากขึ้น เพราะเขาเริ่มเรียนรู้ถึงความตื่นเต้นที่ได้ลองสิ่งใหม่ๆ เริ่มทำอะไรเองได้มากขึ้นและจะชอบเมื่อมีคนเล่นด้วย แต่เด็กจะยังไม่ทราบถึงอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำของเขา เช่น การคว้าถ้วยกาแฟร้อน หรือการจับมีดปอกผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะ ช่วงนี้คุณจึงต้องระวังเป็นพิเศษ และพยายามตรวจเช็กดูสภาพห้องและบริเวณที่เล่นของลูกว่าเป็นที่ที่ปลอดภัย
ลูกจะคลานได้คล่องและพาตัวเองไปยังที่ที่ต้องการจะไปได้โดยเร็ว คุณพ่อคุณแม่ควรต้องระวังเรื่องประตู เพราะจะเป็นที่ที่เด็กชอบมาก เนื่องจากเห็นการเคลื่อนไหวนอกห้องที่น่าตื่นเต้นสำหรับเขา จึงเกิดอุบัติเหตุประตูเปิดกระแทกเด็ก หรือประตูหนีบนิ้วมือได้บ่อยๆ หรือไม่ก็อาจจะออกมานอกห้องและคลานตกบันไดได้

นอกจากนั้นลูกจะชอบเอานิ้วเล็กๆ แหย่ตามร่อง รูที่เห็นตามพื้น หรือกำแพง หรือแม้แต่ปลั๊กไฟ ที่ทำเกิดอันตรายร้ายแรงได้ ลูกจะนั่งและคลานไปมาได้นาน เพราะกล้ามเนื้อแขน ขาและหลังแข็งแรงขึ้น และเริ่มเกาะยืน (ชอบให้คุณอุ้มเขายืนบนตักหรือโต๊ะ) คุณควรให้โอกาสเขาได้นั่งและคลานเล่นบนพื้น จะดีกว่าการอุ้มตลอดเวลา หรือจับใส่ไว้ในเก้าอี้หัดเดิน เพราะเก้าอี้หัดเดินไม่ได้ให้เด็กได้มีโอกาสฝึกฝนการทรงตัวอย่างธรรมชาติ
เด็กจะเรียนรู้จากการตั้งไข่ ซึ่งจะเป็นการเตรียมพร้อมพัฒนาการการเดินในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เด็กจะเรียนรู้ว่าพื้นหรือเครื่องเรือนแบบไหนที่จะรองรับน้ำหนักเขาได้ (ช่วงนี้จะพบว่าเด็กมีโอกาสตกโต๊ะ หรือเก้าอี้ได้บ่อยๆ จากการพยายามปีนของเขานั่นเอง) คุณสามารถช่วยลูกหัดหย่อนก้นลงนั่งจากท่ายืนโดยการก้มตัวลง (งอส่วนลำตัวด้านบนกับสะโพก) โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย และวางน้ำหนักไปทางก้น เพื่อที่จะได้นั่งลงได้โดยไม่หงายหลังหรือเจ็บตัว คุณควรให้ลูกได้มีโอกาสฝึกฝนเองให้มาก เพื่อเขาจะได้เรียนรู้ และมีความมั่นใจในการก้าวต่อไป จะดีกว่าการปกป้องคอยอุ้มเขา กลัวเขาล้มเพราะอาจทำให้เด็กไม่กล้าที่จะลองทำการลุกนั่งเองให้ได้

ช่วงวัยนี้ลูกจะชอบรื้อของ โดยเฉพาะของที่อยู่ในตู้ อาจเป็นตู้เสื้อผ้าหรือตู้ในห้องครัว และตู้ในห้องน้ำที่ใช้เก็บสารเคมีต่างๆ เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาล้างจาน น้ำหอม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีอันตรายมาก ถ้าเด็กกินเข้าไปหรือหกราดเข้าตา คุณต้องเก็บของเหล่านี้ให้มิดชิดและใช้กุญแจล็อกให้แข็งแรง ป้องกันไม่ให้ลูกเปิดได้ อีกทั้งดวงตาของลูกจะสามารถมองเห็นในรายละเอียดต่างๆ ได้ดีขึ้น และจะเป็นคนช่างสังเกต เขาจะสามารถเอานิ้วชี้ไปยังสิ่งที่ต้องการเพื่อบอกเราได้ และจะคอยสังเกตเห็นสิ่งของใหม่ๆ ที่อยู่ในห้องหรือในบ้านได้เสมอ
เรื่องการกินอาหาร ก็จะยังไม่ค่อยแน่นอน บางวันบางมื้ออาจจะกินได้ดี บางมื้ออาจจะไม่ค่อยยอมกินเลย แล้วแต่ว่าอารมณ์และความสนใจของเขาจะอยู่ที่ไหน จึงควรปล่อยตามสบาย ไม่พยายามยัดเยียดให้ลูกต้องกินให้หมดตามที่คุณแม่ต้องการ แต่ควรเป็นไปตามที่เด็กต้องการ เพราะจะเกิดการต่อต้านขึ้นได้ง่าย และในที่สุดจะกลายเป็นเด็กกินยากขึ้นอีก
ส่วนการนอนอาจจะยังไม่ค่อยลงตัว ลูกยังต้องการการนอนกลางวันอยู่ บางครั้งลูกอาจจะไม่ยอมนอน และพยายามเล่นจนเหนื่อยหรือเพลียแล้วหลับไปได้เอง ซึ่งเด็กบางคนในช่วงที่เริ่มเหนื่อย หรือง่วงจะค่อนข้างหงุดหงิด และจะต้องการให้คุณอุ้มหรือกล่อมเขาจนได้ที่ก่อนที่จะยอมหลับไป

การพัฒนาด้านภาษา ก็ได้มีการวางรากฐานไว้ตั้งแต่ช่วงลูกยังเล็กๆ นานก่อนที่ลูกจะพูดได้คำแรก คุณควรพยายามพูดคุยกับลูกเสมอๆ โดยการทำสีหน้าและโทนเสียงสูงเสียงต่ำต่างกันไป ในช่วงนี้ลูกจะสามารถแสดงสีหน้า และแววตาว่าเขากำลังฟังคุณอยู่ บางครั้งเขาจะพยายามทำเสียงเลียนเสียงของคุณเพื่อเป็นการโต้ตอบกันด้วย