โฆษณา

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

ออกกำลังกาย รับลมหนาวกันเถอะ

ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วอากาศก็เริ่มเย็นลง ลูกน้อยของเราส่วนใหญ่ก็มักจะเริ่มมีอาการเป็นหวัด เป็นไข้ ช่วงหน้าหนาวนี้คุณหมออาจจะขายดี แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่เริ่มเตรียมตัวเองเพื่อป้องกัน หน้าหนาวปีนี้พ่อแม่เองอาจจะไม่ต้องเสียค่ายาและค่าหมอก็ได้นะครับ ตัวลูกน้อยเองก็จะแข็งแรง ฉะนั้นเรามาเตรียมตัวเองกับลูกน้อยเพื่อรับลมหนาวกันดีไหมครับ มีด้วยกันอยู่ 5 วิธี ที่อยากจะแนะนำให้ปฏิบัติกับลูกน้อย

อาหาร
ลูกต้องทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ และต้องให้ครบ 5 หมู่นะครับ โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้าลูกน้อยจะขาดไม่ได้ เน้นอาหารกลุ่มให้พลังงานและไขมันเป็นพิเศษ และที่จะขาดไม่ได้คือผลไม้กลุ่มที่ให้วิตามินซีได้แก่ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม หรือมะนาว เน้นทานตอนเช้านะครับ จะช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้ด้วย และที่สำคัญต้องให้ลูกน้อยดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ เพราะน้ำมีส่วนช่วยปรับสมดุลของร่างกายได้เป็นอย่างดีครับ

แต่งกาย
ช่วงหน้าหนาวควรแต่งกายให้อบอุ่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ถุงมือ หมวก เลือกลายที่ลูกๆ ชอบครับ เวลานอนให้ลูกน้อยสวมถุงเท้าเข้าไว้ และอาบน้ำแต่หัววัน เพราะอุณหภูมิยังไม่เย็นมากนัก และที่สำคัญให้อาบน้ำอุณหภูมิปกติ เพราะร่างกายจะได้คุ้นเคยกับสภาพอากาศที่เย็นและเริ่มเรียนรู้ที่จะปรับตัวเอง พยายามหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นนะครับ

ออกกำลังกาย
พ่อแม่หลายคนมองข้ามความสำคัญการออกกำลังกายของลูกน้อยไป อย่าว่าแต่ลูกเลยนะครับบางครั้งตัวพ่อแม่เองก็ไม่เคยออกกำลังกายเลย
การออกกำลังกายของลูกสามารถช่วยเสริมสร้างและพัฒนาร่างกายทั้งระบบได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหน้าหนาวนี้ควรเน้นให้ลูกได้ออกกำลังกายทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที เทคนิคการออกกำลังกายที่สำคัญในวัยเด็ก ก็คือการให้เด็กได้เคลื่อนไหวมีการใช้กำลังและแรงอย่างต่อเนื่อง จะเป็นการเล่นหรือกีฬาก็ได้

1. ไม่ต้องเลือกเวลา และสถานที่ พ่อแม่หลายท่านคิดว่าข้อนี้เป็นอุปสรรคใหญ่ เพราะข้อโต้แย้งที่เรามักจะได้ยินเวลาเราพูดถึงเรื่องของการออกกำลังกายอยู่เสมอก็คือ ไม่มีเวลา ไม่รู้จะไปออกที่ไหน ไม่มีเวลาขึ้นอยู่กับตัวพ่อแม่ที่จะบริหารเวลากับลูกๆ ยกตัวอย่างเช่นผมตอนนี้ ฝึกลูกให้สามารถไปออกกำลังกายเองได้แล้ว ผมเองไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายกับลูก แต่เราต้องสอน และฝึกลูก เมื่อลูกเป็นและเข้าใจเราก็เริ่มปล่อยลูก เริ่มควบคุมกำกับโดยการใช้ตาราง ลักษณะเหมือนตารางเรียนหนังสือของลูกนั่นแหละครับ

2. ใช้กิจกรรมการเคลื่อนไหวได้ทุกรูปแบบ อย่างเช่น เล่นในลานเด็กเล่น ว่ายน้ำ วิ่งตอนเช้า เล่นโยคะ ฟุตบอล ฯลฯ การเลือกกิจกรรมการออกกำลังสำหรับลูก เราสามารถใช้กิจกรรมการเคลื่อนไหวได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาหรือการเล่นของเด็ก ก็ถือเป็นการออกกำลังกายได้เช่นกันครับ

3. ให้ฝึกทุกวันๆ ละ 30 นาที การออกกกำลังกาย หมายถึงการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาที ให้เกินขีดความสามารถปกติ ดังนั้น เด็กเองก็ต้องเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่อง และเล่นให้เกินขีดความสามารถของเด็ก เล่นให้เหนื่อยและต่อเนื่อง ไม่ต้องให้พักหรอกครับ เพราะเด็กแรงเยอะครับ

พักผ่อน
เด็กเล็กต้องการนอนวันละ มากกว่า 12 ชั่วโมง เด็กช่วงปฐมวัยต้องการนอนเฉลี่ยวันละ 10-12 ชั่วโมง เด็กโตต้องการนอนวันละ 8-10 ชั่วโมง ส่วนผู้ใหญ่ต้องการนอนวันละ 6-8 ชั่วโมง จะเห็นว่าในวัยเด็กๆ ต้องการนอนหรือพักผ่อนมากกว่าผู้ใหญ่ การนอนของเด็กจะช่วยทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนโกร์ท เป็นฮอร์โมนที่ทำให้เด็กเจริญเติบโต เด็กที่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ กินอาหารครบถ้วน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้เด็กแข็งแรงไม่ค่อยเจ็บป่วยและไม่เป็นโรค เด็กควรนอนก่อน 2 ทุ่มและตื่นแต่เช้า ส่วนช่วงกลางวันสำหรับเด็กเล็ก หลังจากกินอาหารกลางวันแล้วพ่อแม่สามารถให้เด็กนอนได้ เพราะการนอนช่วงนี้ก็จะทำให้ร่างกายของเด็กหลั่งออร์โมนโกร์ทเช่นกัน

รักษา
การรักษาถือเป็นวิธีสุดท้าย ซึ่งผมเองไม่อยากแนะนำ เพราะเสียทั้งเงินและเวลา แต่เมื่อลูกเราเกิดเจ็บป่วยก็ถือว่าเป็นเหตุจำเป็นที่จะต้องไปพบแพทย์เพื่อรักษา แต่ถ้าพ่อแม่เริ่มใส่ใจและเอาใจใส่ใน 4 อย่างแรกที่กล่าวมา โอกาสที่ลูกเราเจ็บป่วยและต้องไปหาหมอก็จะลดน้อยลงมากครับ

โดย : อาจารย์กษิดิศ กันน้อย