โฆษณา

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

สุดยอดคุณพ่อ...คุณก็เป็นได้


แม้ว่าการตั้งครรภ์จะเป็นหน้าที่ของผู้หญิง แต่ก็ใช่ว่าช่วงเวลา 9 เดือนนี้คุณผู้ชายจะไม่มีบทบาท เพราะว่าที่คุณพ่อนั้นสามารถช่วยเหลือและทำให้การตั้งครรภ์ 9 เดือน ของภรรยาผ่านไปด้วยดีได้ เพียงแค่คุณใส่ใจและให้เวลา

1. ช่วยภรรยาของคุณในการเตรียมข้าวของเครื่องใช้สำหรับเจ้าตัวเล็กที่กำลังจะคลอด
2. เข้าร่วมคอร์สสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ด้วยกัน
3. หยิบหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก ที่ภรรยาของคุณซื้อมาเต็มบ้านมาอ่านบ้าง เพื่อที่จะได้รู้ว่าคุณควรเตรียมตัวในการดูแลเจ้าตัวน้อยอย่างไร
4. ระหว่างนี้คุณควรรู้วิธีประกอบรถเข็นเด็ก วิธีประกอบและติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car Seat) เพื่อความปลอดภัยในวันที่พาลูกน้อยออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้าน
5. พูดคุยความรู้สึกทั้งทางลบและทางบวกของคุณกับภรรยา โดยไม่ต้องกลัวว่าสิ่งที่คุณกังวลจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือไร้สาระ
6. คุยกับลูกในท้องของภรรยา เสียงของคุณนั้นได้ยินไปถึงหูของเจ้าตัวน้อย และยิ่งคุณคุยกับลูกบ่อยเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้ลูกคุ้นกับเสียงของคุณ ซึ่งเมื่อหนูน้อยคลอดออกมาลูกก็จะรู้สึกมั่นใจและอบอุ่นเมื่อได้ยินเสียงของคุณพ่ออีกครั้ง

Super Daddys Rule กฎทองของสุดยอดคุณพ่อ

เชื่อว่าคุณคงเคยรู้สึกว่าการเป็นพ่อนั้นมีเรื่องน่าหนักใจหลายข้อ จริงๆ แล้วเรื่องเหล่านี้แก้ไขได้ และไม่ได้น่าหนักใจอย่างที่คิด ต่อไปนี้เป็นกฎที่คุณพ่อมือใหม่ควรรู้ และน่าจะทำให้คุณมีความสุขกับการเป็นพ่อมากขึ้น

Nothing You Cant Do ไม่มีอะไรที่คุณทำไม่ได้ ทั้งเปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ ป้อนข้าว ฯลฯ ไม่มีใครทำสิ่งเหล่านี้เป็นตั้งแต่เกิด แม้กระทั่งภรรยาของคุณ ฉะนั้นอย่าท้อใจหรืออย่ากลัวไปก่อนว่าคุณจะทำอะไรผิดๆ ไม่ว่าคุณจะอุ้มลูกเก้ๆ กังๆ จนใครๆ หัวเราะ แต่อย่างน้อยการอุ้มของคุณก็ปลอดภัยสำหรับลูก หนำซ้ำยังทำให้เจ้าตัวน้อยอบอุ่นอีกต่างหาก
You Never Alone คุณไม่ได้อยู่ลำพัง การเป็น Super Dad ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเป็น One Man Show ทำอะไรเองด้วยตัวคนเดียว เพราะท้ายที่สุดแล้ว การช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างคุณกับภรรยาในการดูแลเจ้าตัวเล็ก จะส่งผลดีต่อลูกน้อยโดยรวมทั้งร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญา
You Are Important คุณคือคนสำคัญ แม้ว่าพระเจ้าจะไม่ได้มอบหน้าที่การตั้งครรภ์ให้กับผู้เป็นพ่อ แต่ก็ใช่ว่าเมื่อมาถึงเรื่องของการเลี้ยงลูกแล้ว บทบาทของคุณจะน้อยลงไป รู้หรือไม่ค่ะว่าการที่คุณพ่อดูแลลูกอย่างใกล้ชิด เล่นกับลูกอย่างสม่ำเสมอ พูดคุยและรับฟังเรื่องราวของลูก จะเป็นการช่วยสร้างให้เจ้าตัวน้อยมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่มั่นคงได้

คุณพ่อมือใหม่กับลูกวัยเบบี๋

ให้นมลูกไม่ได้ ช่วยจับลูกเรอก็ยังดี หรือจะช่วยคุณภรรยาล้างเครื่องมือปั๊มนม ซักชุดเด็กอ่อน พอถึงวันที่คุณแม่ต้องกลับไปทำงาน คุณพ่ออาจจะช่วยอุ่นนมให้ลูก ก็น่ารักไปอีกแบบ
เปลี่ยนผ้าอ้อม การเปลี่ยนผ้าอ้อมเป็นสิ่งพื้นฐานที่คุณพ่อควรเรียนรู้เสียตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะผ่านช่วงเวลานี้ไป ลูกเลิกใส่ผ้าอ้อม คุณก็อาจจะพลาดโอกาสนี้ไปอย่างน่าเสียดายก็ได้นะ
เล่นจ๊ะเอ๋ ลูกวัยเบบี๋ โดยเฉพาะอายุ 3 เดือนขึ้นไป จะชอบเล่นจ๊ะเอ๋มากเป็นพิเศษ และรับรองว่าหากคุณจ๊ะเอ๋! เขาเมื่อใดก็จะได้เห็นรอยยิ้มลูกเมื่อนั้น
อดนอนกลางดึก เพื่อกล่อมให้เจ้าตัวเล็กหลับ คุณพ่อหลายคนอาจมองว่าช่วงเวลานี้เป็นความทรมาน แต่จะว่าไปเวลา 3 เดือนนี้อาจเป็นช่วงเวลาทองที่จะทำให้คุณได้รู้ว่า ทำไมคุณพ่อคุณแม่ของคุณจึงห่วงคุณมากขนาดนี้ ก็เป็นได้

คุณพ่ออดทนกับจอมซนวัยเตาะแตะ

สำหรับคุณพ่อที่มีลูกวัยเตาะแตะ อาจพบว่าเจ้าตัวน้อยน่ารัก แต่ขณะเดียวกันก็น่าตีเสียจริงๆ ลูกช่างท้าทายไปทุกเรื่อง บอกว่าอย่า ก็ไม่หยุด บอกให้หยุด ก็ยังทำ โอ๊ย! น่าปวดหัวเสียจริง จะรับมือหนูน้อยวัยนี้อย่างไรได้บ้างนะ

ให้ทางเลือก เด็กๆ วัยนี้กำลังท้าทายเพื่อค้นหาขอบเขตและอำนาจการตัดสินใจของเขาเอง หากคุณบอกให้ลูกนั่งแต่เขาไม่นั่ง ลองเสนอทางเลือกเช่น จะนั่งบนตักพ่อ หรือบนเก้าอี้ เพื่อให้เขาได้ตัดสินใจอะไรเล็กๆ น้อยๆ เพียงเท่านี้ก็หมดปัญหาลูกไม่เชื่อฟังแล้ว
ทำโทษให้ถูกทาง หากลูกไม่เชื่อฟังเข้าขั้นดื้อล่ะก็ บางทีอาจถึงเวลาต้องลงโทษ แต่คุณก็ควรเลือกลงโทษให้ถูกวิธีด้วย ไม่ควรใช้ความรุนแรง ทั้งการตี และระเบิดอารมณ์ใส่ลูก วิธีที่เหมาะสมคือทำโทษด้วยการใช้เวลานอก (Time-out) และควรอธิบายเหตุผลที่โดนลงโทษให้ลูกฟังด้วย

คุณพ่อคนเก่งกับนักเรียนคนใหม่

เมื่อลูกเริ่มเข้าสู่วัยเรียน การใช้เวลาระหว่างคุณกับลูกอาจจะลดน้อยลง แต่กระนั้นคุณก็จะค้นพบกิจกรรมใหม่ๆ ที่คุณทำกับลูกได้อีกมากมาย

สอนการบ้าน ใช้เวลาสอนการบ้านลูก ชวนลูกทำแบบฝึกหัดเสริมทักษะในด้านต่างๆ หรือจะลองสวมบทบาทเป็นคุณครูของลูก ก็น่าจะสนุกไปอีกแบบ
พาลูกไปเที่ยว ชวนให้ลูกคิดสิ่งต่างๆ ที่เห็นรอบตัว เช่น ลูกคิดยังไงกับคนไม่ต่อแถวขึ้นเรือ หรือ ทำไมลูกถึงชอบให้พ่อพาไปวัด ฯลฯ เพื่อเป็นการเปิดโลกการเรียนรู้และให้ลูกได้ฝึกคิดไปในตัว
เป็นตัวอย่างที่ดี เมื่อลูกเริ่มโตขึ้น การเป็นตัวอย่างที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอยู่แล้ว ก็จะยิ่งมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะลูกจะเริ่มแยกแยะสิ่งดีไม่ดีได้ด้วยตัวเขาเอง หากคุณทำในสิ่งที่คุณห้ามลูก ก็จะทำให้ลูกเกิดความสับสนและสงสัย จนกลายเป็นความไม่เชื่อฟังได้

สุดยอดคุณพ่อเป็นได้ไม่ยาก เพียงแค่คุณให้เวลาและให้ความสำคัญกับลูก พยายามทำความเข้าใจอารมณ์และพฤติกรรมของเจ้าตัวน้อยที่เปลี่ยนแปลงไป รับรองว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกนั้นจะเป็นสิ่งที่คุ้มค่าต่อการทุ่มเทแน่นอน