โฆษณา

วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556

เด็ก ๆ จะ ออกกำลังกายเมื่อไรดี

ใครก็คงรู้ว่าคุณหนูๆ ที่กำลังเจริญเติบโตนั้น จำเป็นต้องได้รับการดูแลที่ดีอย่างรอบด้านทั้งร่างกาย สมองและจิตใจ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้เด็กจะได้รับจากการเอาใจใส่เลี้ยงดู อาหารการกิน รวมทั้งการส่งเสริมให้ทำกิจกรรมที่จะได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการเล่นกีฬานั่นเอง

กล้ามเนื้อแข็งแรง การออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้อต่างๆ ในร่างกายสมบูรณ์ขึ้น เพราะมีการพัฒนาระบบประสาทสั่งการที่เกี่ยวกับการทำงานของกล้ามเนื้อได้มีประสิทธิภาพ

สูงแน่ๆ แค่ออกกำลัง เพราะเมื่อเด็กๆ ได้ขยับเคลื่อนไหวร่างกาย จะส่งผลให้เกิดการสร้างมวลกระดูก ทำให้กระดูกเจริญเติบโตแข็งแรง ซึ่งจะส่งผลต่อความสูงของหนูน้อยได้

หัวใจแข็งแรง เพราะเมื่อออกกำลังหัวใจจะเต้นแรงขึ้น มีการบีบตัวที่ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ซึ่งจะช่วยลดความดันโลหิต และระดับไขมันในเลือด ทำให้ระบบหัวใจแข็งแรง

ไม่อ้วน เด็กที่มีน้ำหนักตัวเกิน มักมีปัญหาเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจ โรคระบบกระดูกและข้อ การหลั่งฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ และมีโอกาสเสี่ยงความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ เมื่อเขาโตเป็นผู้ใหญ่ได้ด้วย ซึ่งการออกกำลังจะช่วยป้องกันภาวะเหล่านี้ได้

ดีต่อจิตใจ เพราะการออกกำลังกายของเด็กๆ บางครั้งก็คือการกระโดดโลดเต้น หรือตะลุยสนามเด็กเล่นกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว ซึ่งจะทำให้คุณหนูๆ สนุกสนาม อารมณ์แจ่มใส ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพจิตด้วย รวมทั้งทำให้รู้สึกว่าร่างกายแข็งแรง กระปรี้กระเปร่า ส่งผลถึงความเชื่อมั่นในตนเองตามมา

เลือกกีฬาให้ถูกใจวัยเด็ก
เพื่อที่จะทำให้เจ้าตัวเล็กรู้สึกดีกับการได้เคลื่อนไหวร่างกายออกกำลัง คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกกีฬาให้เหมาะกับหนูน้อยแต่ละวัยด้วย

วัยเตาะแตะ 3 ปี เจ้าตัวเล็กวัยนี้กำลังเริ่มที่จะเรียนรู้การเคลื่อนขั้นพื้นฐานต่างๆ ทั้งการวิ่ง การวิ่งไล่จับ การกระโดด ซึ่งการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับเด็กในวัยนี้ ได้แก่
การเดิน การวิ่งในสวนหรือในสนาม
เล่นกับเพื่อนๆ ในสนามเด็กเล่น
เล่นน้ำโดยมีผู้ใหญ่ดูแลใกล้ชิด
คลาสยิมนาสติกสำหรับเด็กโดยมีผู้เชี่ยวชาญดูแล

หนูน้อยวัย 3- 6 ปี ทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายและการระมัดระวังตัวเองของเจ้าตัวเล็กจะพัฒนาอย่างเต็มที่แล้ว ดังนั้น เจ้าตัวเล็กอาจพร้อมที่จะเริ่มการเล่นกีฬาเป็นทีมกับเพื่อนๆ
เต้นเข้าจังหวะเพลง
กระโดดขาเดียว หรือวิ่งไล่จับ
กระโดดเชือก
วิ่งไล่จับบอลลูกเล็ก
ขี่จักรยาน

หนูน้อยวัย 7 ปีขึ้นไป
ฟุตบอล
ยิมนาสติก
ว่ายน้ำ
เทนนิส
ขี่จักรยาน

แม่จ๋ากีฬาไม่เห็นสนุก
ขณะที่คุณกำลังหากีฬาที่เหมาะสมให้กับลูก คุณก็อาจจะพบว่าเจ้าตัวเล็กไม่อยากเล่นกีฬาเอาเสียเลย เด็กๆ ส่วนหนึ่งไม่ชอบเล่นกีฬาอย่างเป็นทางการ เพราะหนูน้อยเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อการเป็นส่วนหนึ่งของทีม หนูน้อยอาจรู้สึกว่าไม่สนุก ไม่เข้าใจกติกา หรือเพื่อนๆ หัวเราะเยาะเมื่อทำพลาด ประสบการณ์ที่ไม่ดีเหล่านี้เกิดขึ้นได้บ่อยๆ โดยเฉพาะในวิชาพละที่โรงเรียน อย่างไรก็ตาม คุณสามารถดูแลความรู้สึกของลูกได้

ก่อนการเล่นกีฬาแต่ละครั้ง คุณอาจถามความคิดเห็นของลูกก่อนว่า ลูกต้องการจะลองเล่นกีฬานั้นไหม และเมื่อเล่นแล้วก็ถามความรู้สึกของลูกว่าเป็นอย่างไร สนุกหรือไม่ เป็นต้น โดยไม่เจาะจงอยู่ที่ลูกเล่นได้ดีแค่ไหนหรือใครเป็นผู้ชนะ นอกจากนี้สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรตระหนักคือ

ตั้งความหวังให้อยู่บนความเป็นจริง เช่น หากลูกของคุณวิ่งช้า ก็ไม่ควรคาดหวังให้ลูกวิ่งได้เป็นที่หนึ่ง
ทำให้ลูกรู้สึกว่ากิจกรรมต่างๆ นั้นเป็นเรื่องสนุก
ต้องแน่ใจว่าขณะเล่นกีฬานั้น เจ้าตัวเล็กก็ได้เข้าสังคมกับเพื่อนๆ ด้วย
สอนให้ลูกเข้าใจว่าการชนะไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของเกมส์กีฬา
อย่าเปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่นๆ
ให้กำลังใจไม่ว่าลูกจะแพ้หรือชนะ
ดูแลเรื่องโภชนาการของลูกให้ครบถ้วน

ออกกำลังกายเมื่อไรดี
กุมารแพทย์ Edward Laskowski แห่ง The Sports Medicine Clinic at Mayo Clinic ในเมืองโรสเชสเตอร์ สหรัฐฯ ระบุว่า การมีสุขภาพดีอาจไม่ได้หมายความว่าต้องมีการเล่นกีฬาเสมอไป แต่ การมีสุขภาพที่ดี คือการที่เด็กๆ ได้มีกิจกรรมซึ่งพวกเขาได้เคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นขี่จักรยานกับคุณพ่อ หรือวิ่งเก็บลูกบอลให้พี่ๆ ตราบใดที่กิจกรรมเหล่านั้นทำให้เด็กๆ เหนื่อยในระดับปานกลาง คือ หายใจเร็วขึ้น เหงื่อซึม ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ควรเกิดขึ้นอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง