โฆษณา

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

อีสุกอีใส ต้องใช้วัคซีนหรือเปล่านะ

ช่วงปลายฝนต้นหนาวอย่างนี้ นอกไปจากโรคไข้หวัด ไอ จาม น้ำมูกไหลแล้ว ก็ยังมีอีกโรคหนึ่งที่พบได้บ่อยในช่วงนี้ของปี นั่นก็ได้แก่ โรคอีสุกอีใส แต่ก่อนนั้นใครๆ ก็ต้องเคยผ่านประสบการณ์เป็นโรคอีสุกอีใสทั้งนั้น เรียกได้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตที่เราต้องเจอะเจอเลยก็ว่าได้ แต่เมื่อวิวัฒนาการทางการแพทย์ก้าวหน้า เราก็ได้มีวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้คุณพ่อคุณแม่ แต่ก่อนจะตัดสินใจว่าลูกน้อยของเราควรได้รับวัคซีนนี้หรือเปล่า เรามีข้อมูลมาฝากกันค่ะ

รู้จักกับโรคก่อนฉีดวัคซีน

โรคอีสุกอีใสเป็นโรคที่เราได้ยินได้ฟังกันมาตั้งแต่เด็กๆ และคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ก็เคยเป็นโรคนี้กันมาแล้ว ประมาณ 90% ของผู้ที่ยังไม่เคยเป็นอีสุกอีใส จะเป็นอีสุกอีใสหลังจากการได้รับเชื้อจากคนอื่น โดยจะเริ่มมีอาการขึ้นตุ่มในช่วงระหว่าง 7-21 วัน หลังสัมผัสเชื้อ (ส่วนใหญ่จะประมาณ 14-17 วัน) ซึ่งเมื่อมีเด็กในบ้านคนหนึ่งป่วยเป็นอีสุกอีใส ก็จะพบว่าพี่น้องและคนอื่นๆ ในบ้านก็จะเริ่มมีอาการอีสุกอีใสในช่วง ประมาณ 2 อาทิตย์ต่อมา โดยจะพบบ่อยในเด็กวัยเข้าเรียนช่วงอายุ 5-9 ปี หลังจากหายแล้วคนไข้ส่วนใหญ่จะมีภูมิคุ้มกันไปตลอดชีวิต
เด็กส่วนใหญ่ที่เป็นอีสุกอีใสจะมีอาการไม่มากทำให้สามารถดูแลที่บ้านได้ ในการดูแลเรื่องไข้ ควรให้แต่ยาพาราเซตามอล ไม่ควรใช้ยาแอสไพริน เพราะมีรายงานว่าอาจทำให้เกิดกลุ่มอาการ Reye's syndrome ซึ่งอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ ถ้ามีอาการคันมาก ควรให้อาบน้ำด้วยน้ำอุ่นสบาย และใช้สบู่อ่อนๆ จะรู้สึกสบายตัวขึ้น และเป็นการลดการติดเชื้อแทรกซ้อนของผิวหนัง ไม่ควรเช็ดตัวแรงๆ แต่ให้ใช้ผ้าซับเบาๆ ไม่ควรทาโลชั่น เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ง่าย ควรตัดแต่งเล็บให้สั้น เพราะเมื่อเด็กคันจะเกามาก ทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน และเป็นแผลเป็นได้

อีสุกอีใส จำเป็นไหมต้องฉีดวัคซีน

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสก็สามารถป้องกันการเกิดโรคได้ 70-90 % แต่หากว่าฉีดวัคซีนแล้วเกิดมีอาการอีสุกอีใสขึ้นมาก็จะมีอาการไม่มากและจะหายได้เร็วกว่าปกติ แต่สำหรับครอบครัวไหนคิดว่าไม่จำเป็นต้องฉีด เพราะคุณมีเวลาดูแลลูกเต็มที่ นั่นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะโรคนี้ก็ไม่ได้มีอาการร้ายแรงมากแต่อย่างใด

วัคซีนอีสุกอีใส ฉีดเมื่อไรดี

เด็กวัย 1 12 ปี ที่ยังไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสอาจขอรับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสได้ โดยจะฉีดเพียงเข็มเดียว สำหรับเด็กโตวัย 13 ปีขึ้นไป อาจต้องฉีด 2 เข็มโดยเว้นระยะการฉีดวัคซีนให้ห่างกันประมาณ 1 เดือน ทั้งนี้ขณะที่พาลูกไปรับวัคซีนต้องแน่ใจว่าลูกไม่ได้มีไข้ปานกลาง ถึงไข้สูง และไม่ได้แพ้ยา neomycin หรือสาร gelatin อย่างไรก็ตามในประเทศไทย แพทย์มักจะแนะนำให้เด็กอายุ 10 ปีขึ้นไปที่ยังไม่เคยเป็นโรค ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคอีกสุกอีใส เพราะพบว่าโรคนี้หากเป็นเมื่ออายุมากขึ้น ก็มีความเสี่ยงที่จะมีอาการแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น
อาการแทรกซ้อนหลังฉีดวัคซีน เด็กๆ ส่วนใหญ่ที่ได้รับวัคซีนอีสุกอีใสไม่พบปัญหาร้ายแรงใดๆ อาจมีบ้างในบางราย ที่มีอาการระคายเคือง ปวด แดง หรือ บวม ในบริเวณที่ฉีด พบได้บ่อย 1 ใน 5 ราย หรือเกิดผื่นบางๆ หรือรอยบวม พบได้ประมาณ 3 - 4 ใน 100 ราย แต่น้อยกว่า 1 ใน 1,000 ราย จะมีอาการการปวดเมื่อยตามตัวเนื่องจากอาการไข้

อีสุกอีใส กับความจริงที่ควรรู้

เมื่อลูกเป็นอีสุกอีใส ควรให้ลูกหยุดเรียนจนกว่าจะหายดี แม้จะเห็นว่าลูกไม่มีไข้ แผลตกสะเก็ดแล้วก็ไม่ควรให้ไปเรียนเพราะอาจนำโรคไปติดเพื่อนๆ ได้ เพราะระยะแพร่เชื้อนั้นนับตั้งแต่ 24 ชั่วโมง ก่อนที่ผื่นขึ้นและ 24 ชั่วโมง เมื่อตุ่มแห้งหมด ขณะที่ลูกเป็นอีสุกอีใส สามารถกินอาหารได้ทุกอย่าง ไม่มีของแสลง เพราะร่างกายของผู้ป่วยต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยให้ลูกฟื้นตัวได้เร็ว โรคนี้เมื่อเป็นแล้วอาจมีโอกาสเป็นโรคงูสวัสได้ภายหลัง หากร่างกายอ่อนแอหรือมีภูมิต้านทานต่ำ

ราคาของวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส อยู่ที่ประมาณ 1,000 2,000 บาท

mothersdigest.in.th