โฆษณา

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

พัฒนาการเดือนที่ 12 เย้! หนูเดินได้แล้ว

ลูกจะเริ่มมีความรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง รู้ว่าตนเองก็เป็นคนหนึ่งคนที่แยกจากแม่ได้ และจะมีวิธีที่ บอกคุณได้ว่า ชอบหรือไม่ชอบอะไร และต้องการอะไรจากคุณ

ในเด็กที่อายุ 1 ปีประมาณ 3 ใน 5 ราย จะเริ่มเดินได้เองในวันครบรอบวันเกิดของเขา แต่ก็ยังต้องการการฝึกฝนอีกสักพักก่อนที่จะเดินได้คล่อง บางครั้งเด็กจะล้มซึ่งมักมีเสียงร้องไห้ตามมาด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ใช่จากเจ็บตัว แต่จะเกิดจากตกใจหรือหงุดหงิดที่ตนเองยังไม่สามารถเดินไปถึงจุดหมายที่ต้องการได้ และหลายครั้งเด็กที่เริ่มเดินได้แล้วจะกลับมาใช้วิธีคลานอีก เนื่องจากยังถนัดที่จะพาตนเองไปไหนตามใจโดยการคลานซึ่งเร็วกว่าการเดินในช่วงแรกๆ

น้ำหนักของลูกจะไม่ค่อยขึ้นมากนักเหมือนเมื่อก่อน เป็นเพราะลูกจะมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง และใช้พลังงานไปพอสมควร ไม่เหมือนตอนเล็กๆ ที่จะกินกับนอนเป็นส่วนใหญ่ และพฤติกรรมการกินอาหารก็จะยังไม่แน่นอน บางครั้งจะชอบกินอย่างหนึ่งไปหลายมื้อติดๆ กัน แต่อีกวันอาจจะไม่เอาอาหารอย่างเดิมเลย หรือมีสิ่งที่น่าสนใจดึงให้เขาไม่อยากนอนในตอนนั้น ซึ่งคุณควรจะทำตัวสบายๆ อย่าเข้มงวดว่าเขาจะต้องเข้านอนตรงตามเวลาที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ควรผ่อนปรนบ้าง

วัยนี้เด็กบางคนจะเริ่มมีการอาละวาด ลงไปดิ้นกับพื้นเมื่อถูกขัดใจบ้าง ซึ่งอาจทำให้คุณตกใจและถ้ายิ่งคุณหงุดหงิดอารมณ์เสีย เขาก็จะยิ่งมีการอาละวาดมากขึ้นไปอีก ลูกต้องการให้คุณช่วยสอนการควบคุมอารมณ์เมื่อเขาโกรธหรือโมโห ดังนั้นคุณควรจะคุมตัวคุณเองให้ได้ก่อน และพูดหรือโต้ตอบกับเขาด้วยท่าทีที่สงบเย็น ก็จะช่วยให้ลูกเริ่มเรียนรู้การควบคุมอารมณ์ของเขาเองได้ต่อไปในอนาคต
ลูกอาจจะดูเป็นเด็กอารมณ์ดีน่ารักในช่วงขณะหนึ่ง แต่อีกแป๊บเดียวอาจจะงอแงร้องไห้ได้ หรืออาจจะกลายเป็นเด็กที่ดื้อที่สุดในอีกไม่กี่นาทีต่อมา ในการเล่นกับเด็กคนอื่นๆ จะเป็นแบบต่างคนต่างเล่น ไม่เล่นด้วยกันแบบเด็กโต แต่ก็จะอยากให้มีเด็กคนอื่นอยู่ใกล้ๆ ด้วย โดยเฉพาะถ้ามีเด็กที่โตกว่ามาเล่นกับเขาจะรู้สึกสนุกมาก

คุณพ่อคุณแม่ควรจะหาเวลาพูดคุยกันเอง ถึงเรื่องต่างๆ เหล่านี้เพื่อที่จะได้ ส่งและรับเรื่อง กันทัน เมื่อลูกเกิดอาการงอแงขึ้น ควรใช้วิธีกระตุ้นในเชิงบวก โดยการสนับสนุนพฤติกรรมที่ดีให้คงอยู่ และแสดงให้ลูกทราบว่าคุณไม่ชอบ ถ้าเขาแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ออกมา ควรเก็บการลงโทษไว้เฉพาะในกรณีพฤติกรรมที่อาจเกิดอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่นได้ และใช้เฉพาะในกรณีที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น
เด็กบางคนจะเริ่มติดตุ๊กตานุ่มๆ ผ้าห่ม หมอน เพราะเขาจะใช้แทนการมีตัวคุณแม่อยู่ใกล้ตลอดเวลา แม้เขาจะโตขึ้นแต่ก็ยังจะมีความรู้สึกไม่อยากแยกจากคุณแม่ และกลัวคนแปลกหน้า เมื่อเขาต้องออกไปข้างนอกบ้านกับคุณ จึงควรระวังที่จะไม่ปล่อยเขาไว้โดยลำพังกับคนที่เขาไม่คุ้นเคย โดยเฉพาะเวลาอยู่ในสถานที่ใหม่ที่เขาไม่รู้จักคุ้นเคย

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะทำได้ต่อไปก็คือ การช่วยกันอบรมเลี้ยงดูเขา ให้เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข ประสบความสำเร็จ และเป็นคนดีของสังคมได้ดังที่เราตั้งใจไว้