โฆษณา

วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556

ทฤษฎีสมองซีกซ้าย สมองซีกขวา

 ทฤษฎีสมองซีกซ้าย-ขวาของ ดร.โรเจอร์ ดับบลิว สเปอร์รี่ (Dr.Roger W. Sperry) แห่งวิทยาลัยฟิสิกส์อุตสาหกรรม มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งท่านได้ค้นพบในปี ค.ศ.1981 ว่าสมองคนเรานอกจากจะแบ่งออกตามขนาด เป็นสมองเล็ก สมองใหญ่ หรือแบ่งเป็นสมองส่วนหน้า ส่วนหลังแล้วยังสามารถแบ่งตามสมรรถภาพสมอง เป็นสมองซีกซ้าย-ซีกขวาได้อีกด้วย ซึ่งจากการค้นพบครั้งนี้ทำให้ท่านได้รับรางวัลโนเบล สาขาแพทยศาสตร์



สมองซีกซ้าย และสมองซีกขวาบอกอะไรในตัวเด็ก



สมองซีกซ้าย สมองซีกขวา


จิตสำนึก



การสร้างข้อมูลในเชิงตรรกวิทยา



เป็นแหล่งพัฒนาพลังจิต



ทำหน้าที่ตัดสินใจด้วยความสามารถ



ทำหน้าที่ตัดสินใจด้วยความสามารถอย่างมีจิตสำนึก


จิตใต้สำนึก


ควบคุมระบบประสาท



เก็บข้อมูลความจำ



เก็บข้อมูลเหตุการณ์ ประสบการณ์



มีความคิดและอารมณ์เชิงสร้างสรรค์




 สมองซีกซ้าย สมองซีกซ้ายจะควบคุมดูแลพฤติกรรมของมนุษย์

การคิดในทางเดียว (คิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง)

การคิดวิเคราะห์

การใช้ตรรกศาสตร์และการใช้เหตุผลเชิงคณิตศาสตร์

การใช้ภาษาที่มีทั้งการอ่าน และการเขียน

สมองซีกซ้ายจะควบคุมดูแลพฤติกรรมของมนุษย์ที่เกี่ยวกับการใช้เหตุผล การคิดวิเคราะห์ นอกจากนี้สมองซีกซ้ายยังเป็นตัวควบคุม การกระทำ การฟัง การเห็น และการสัมผัสต่างๆ ของร่างกายทางซีกขวาอีกด้วย



 สมองซีกขวา สมองซีกขวาจะควบคุมดูแลพฤติกรรมของมนุษย์

การคิดสร้างสรรค์

การคิดแบบเส้นขนาน (คิดหลายเรื่อง แต่ละเรื่องจะไม่เกี่ยวข้องกัน)

การคิดสังเคราะห์ (สร้างสิ่งใหม่)

การเห็นเชิงมิติ (กว้าง ยาว ลึก)

การเคลื่อนไหวของร่างกาย ความรัก ความเมตตารวมถึงสัญชาตญาณ และลางสังหรณ์ต่างๆ



สมองซีกขวาจะควบคุมดูแลพฤติกรรมของมนุษย์ที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ จริยธรรม อารมณ์ ซึ่งเป็นลักษณะการทำงานในสายของวิชาการทางศิลปศาสตร์ (Arts) เป็นส่วนใหญ่ และยังเป็นตัวควบคุมการทำงานของร่างกายทางซีกซ้ายด้วย

ผลจากทฤษฎีสมองซีกซ้าย-สมองซีกขวา คุณพ่อคุณแม่จะเห็นว่าถ้าเราใช้สมองด้านใดด้านหนึ่งมากกว่าอีกด้านหนึ่ง อาจจะทำให้เกิดผลเสียได้โดยเฉพาะในด้านของการอยู่ร่วมกันในสังคมปัจจุบันอย่างมีความสุข ดังนั้นควรที่จะให้เด็กๆ ได้ใช้สมองทั้งสองซีกอย่างสมดุลกัน